อธิบายอย่างย่อ ไม่มีความผิด โดยไม่มีกฎหมาย ไม่มีโทษโดยไม่มีกฎหมาย
การตีความตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายลายลักษณ์อักษร หรือการตีความกฎหมาย (Interpretation of Law) หมายถึง การค้นหาความหมายของกฎหมายที่บัญญัติไว้และมีถ้อยคำที่ไม่ชัดเจน หรือกำกวม หรือมีได้หลายความหมาย หลายทาง เพื่อหยั่งทราบความหมายของบทบัญญัติตามกฎหมาย
ดังนั้น ถ้าหากกฎหมายที่บัญญัติมีความชัดเจนอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีการตีความ
ทั้งการตีความมีจุดประสงค์เพื่อให้ศาลไทยมีหลักเกณฑ์การตีความกฎหมายเป็นบรรทัดฐานเดียวกันหรือเพื่อที่จะนำกฎหมายนั้นไปใช้บังคับแก่กรณีที่มีปัญหาได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรม
หลักเกณฑ์ในการตีความกฎหมายทั่วไปมี 2 ประการ คือ
1. การตีความกฎหมายโดยการบัญญัติกฎหมายขึ้นมาใหม่
2. การตีความกฎหมายโดยอาศัยหลักการทางวิชาการ
การตีความจึงต้องพิจารณาประกอบไปด้วยกัน 2 ด้าน คือ
1. พิเคราะห์ตามตัวอักษร
2. พิเคราะห์ตามความมุ่งหมายหรือเจตนารมณ์ของกฎหมาย
กฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 4
มาตรา 4 กฎหมายนั้น ต้องใช้ในบรรดากรณีซึ่งต้องด้วยบทบัญญัติใด ๆ แห่งกฎหมายตามตัวอักษร หรือตามความมุ่งหมายของบทบัญญัตินั้น ๆ
เมื่อไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีได้ ให้วินิจฉัยคดีนั้นตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น ถ้าไม่มีจารีตประเพณีเช่นว่านั้น ให้วินิจฉัยคดีอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง และถ้าบทกฎหมายเช่นนั้นก็ไม่มีด้วย ให้วินิจฉัยตามหลักกฎหมายทั่วไป
Facebook Comments